
วิธีการแคะยางออกจากถ้วยในกระบวนการทำยางก้อนถ้วยนั้น ก็ทำได้โดยการใช้มือแกะ แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือวิธีการนี้จะทำให้ผิวหนังสัมผัสกับกรดโดยตรงด้วย ดังนั้น ถ้าเราสามารถสร้างอุปกรณ์เก็บยางก้อนถ้วยโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสก็น่าจะเป็นประโยชน์ ซึ่งแนวคิดเช่นนี้ได้เกิดขึ้นโดยกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยมศึกษา 3 คนจากโรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ ที่จังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้โครงการที่ สกว สนับสนุนที่เรียกว่าโครงการยุววิจัยยางพารา หมายความว่าเป็นโครงการที่สนับสนุนให้เด็กนักเรียนได้เริ่มเรียนรู้ที่จะเป็นนักวิจัยเครื่องมือที่นักเรียนกลุ่มนี้สร้างขึ้น เรียกได้ว่าเป็นผลงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งประดิษฐ์ เพราะว่าได้มีการนำความรู้ทางทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ แล้วสร้างเครื่องมือขึ้นมาก่อนที่จะนำไปทดลองให้ชาวสวนยางได้ใช้ประโยชน์จริง แล้วมีการใช้กระบวนการทางการวิจัยในการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ในที่สุดก็ได้ชิ้นงานออกมาคือเครื่องมือเก็บยางก้อนถ้วยที่สามารถถือได้ด้วยมือเดียว มีขนาดเล็กเหมือนคีม หรือกรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้ทั่วไป แต่สามารถใช้เก็บยางก้อนถ้วยได้เร็วกว่าเดิม และสามารถทำได้สะดวกขึ้นมาก แต่ที่สำคัญคือ มือไม่ต้องสัมผัสกับตัวก้อนยาง จึงไม่ต้องสัมผัสกับกรดที่ยังตกค้างอยู่ในถ้วยเครื่องมือที่ว่านี้มีประโยชน์อย่างมาก และเป็นที่สนใจของเอกชนที่จะนำไปผลิตขาย ขณะนี้ได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ไปเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเจรจากับภาคเอกชนในการนำไปผลิตขายต่อไป
จะเห็นได้ว่างานวิจัยหลายอย่าง ไม่จำเป็นต้องใช้นักวิจัยมืออาชีพตามมหาวิทยาลัย นี่ขนาดเด็กนักเรียน มัธยม ยังสามารถสร้างสิ่งที่เป็นความรู้ใหม่และเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำมาใช้ในการแก้ปัญหาใกล้ตัวอย่างเช่นเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ก็คงต้องให้ผู้ใหญ่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการสร้างความรู้ในหมู่เด็กและเยาวชนของเราต่อไปอย่างจริงจังสำหรับเด็กนักเรียนทั้งสามคนที่ร่วมกันพัฒนาเครื่องมือเก็บยางก้อนถ้วยนี้ก็ได้แก่ นายนัฐพล สุขพันธ์ นางสาวสุพัตรา อ่ำศรี และนางสาวจุฑามาศ นพเก้า โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา 2 ท่านคืออาจารย์ดวงแข ปัญญา และอาจารย์ไสว อุ่นแก้ว ซึ่งควรได้รับการยกย่องและให้เกียรติว่าเป็นผู้ที่พยายามพัฒนาเครื่องมือช่วยอุตสาหกรรมยางดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลดีต่อวงการอุตสาหกรรมยางพาราของประเทศได้ในอนาคต และคาดว่าอีกไม่นานน่าจะมีการนำความรู้ที่ได้จากงานชิ้นนี้ไปผลิตออกมาเป็นเครื่องมือที่ใช้กันทั่วไปในราคาที่หาซื้อได้ และที่สำคัญคือริเริ่มมาจากฝีมือเด็กไทยครับซึ่งในช่วงนี้ ราคาขี้ยาง อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่สูงทำให้ช่วยเหลือความสะดวกสบายและลดค่าใช้จ่ายแก่เจ้าของสวนยางพาราที่ไม่อยากจ้างคนกรีดยางทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นโดยช่วงนี้ ราคาขี้ยาง อยู่ที่ กิโลดกรัมล่ะ17ถึ18บาท ต่อกิโบกรัม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น